ไฟฉุกเฉิน
emergency light
คือ อุปกรณ์ให้แสงสว่างสำรองในกรณีที่ไฟฟ้าดับ
ไฟ ฉุกเฉิน จะติดสว่างขึ้นมาอัตโนมัติเมื่อมีเหตุไฟฟ้าดับ เพื่อให้มีแสงสว่างในเวลาไฟดับ
ทำงานโดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ( ส่วนมากเป็นแบบตะกั่ว-กรด ) ซึ่งจะชาร์จอยู่กับไฟบ้านตลอดเวลา เพื่อให้พร้อมใช้ทุกครั้งเมื่อเกิดไฟดับ
ภายในประกอบด้วยแบตเตอรี่ วงจรชาร์จ หลอดไฟ และสวิตช์อัตโนมัติ ( มักเป็นรีเลย์ หรือทรานซิสเตอร์ ) ในภาวะปกติที่มีไฟฟ้า วงจรชาร์จจะชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้มีไฟเต็มอยู่ตลอดเวลา ส่วนสวิตช์อัตโนมัติจะตัดวงจรหลอดไฟไว้ไม่ให้ทำงาน เมื่อเกิดไฟฟ้าดับ วงจรชาร์จจะหยุดทำงาน และสวิตช์อัตโนมัติจะทำการต่อหลอดไฟเข้ากับแบตเตอรี่ ทำให้ไฟฉุกเฉินติดสว่าง เมื่อไฟฟ้ากลับมาใช้ได้อีกครั้ง วงจรชาร์จจะกลับมาทำงาน และสวิตช์อัตโนมัติจะตัดวงจรหลอดไฟออก ไฟ ฉุกฉิน จะดับ
ข้อบังคับ
ในอาคารที่อยู่อาศัย หอพัก คอนโด โรงแรม โรงพยาบาล โรงงาน อพาร์ทเม้นท์ ห้องชุด กฏหมายควบคุมอาคารให้มีการติดตั้ง ไฟฉุกเฉิน เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยกับผู้อยู่อาศัย และป้องกันการฉวยโอกาสปล้นจี้ในระหว่างเหตุไฟฟ้าดับอีกด้วย
การใช้งานที่ถูกต้อง
ก่อนใช้งาน
- ควรศึกษาคู่มือการใช้งานแต่ละยี่ห้อให้เข้าใจ
- การติดตั้งไฟฉุกเฉิน ควรคำนึงถึงชนิดของแบตเตอรี่ของไฟฉุกเฉินนั้น ๆ เช่นถ้าแบตเตอรี่ แบบเติมน้ำกลั่น ควรจะติดตั้งบริเวณทางเดินหรือที่โล่ง หรือพื้นที่ที่มีการระบายอากาศเป็นอย่างดี เพราะตลอดเวลาที่มีการประจุไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่จะมีไอตะกั่วระเหยออกมาเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ถ้านำไปติดตั้งในห้องที่มีอากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ หรือห้องที่เป็นระบบปิด ควรติดตั้งไฟฉุกเฉินแบบชนิดแบตเตอรี่แห้ง
ข้อควรระวังในการติดตั้ง
ไม่ควรติดตั้งไฟฉุกเฉินติดกับผนังที่ รับความร้อนสูง เพราะจะทำให้อายุของแบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติและในห้องที่มีความชื้นสูง เช่นห้องเย็น ทำให้ตัวสินค้าเกิดสนิม และลัดวงจรเนื่องจากความชื้น
ระหว่างการใช้งาน
- ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นต้องตรวจสอบระดับน้ำกลั่นทุก ๆ 1 เดือน
- ทดสอบการใช้งานว่าเครื่องสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่โดยกดปุ่ม test ทุก ๆ 1 เดือน ว่าหลอดไฟติดหรือไม่ ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่มีปุ่ม test ให้ถอดปลั๊กไฟฟ้า
- ถ้าไฟดับในเวลากลางวัน แล้วมีใครปิดสวิทซ์ เพื่อไม่ให้หลอดไฟสว่างเมื่อไฟฟ้าจ่ายเป็นปกติ แล้วให้เปิดสวิทซ์เพราะมิเช่นนั้น ไฟฉุกเฉินจะไม่ประจุไฟเข้าแบตเตอรี่
- ควรให้แบตเตอรี่มีการคายประจุไฟฟ้าจนหมดเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยเปิด เครื่องทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือนต่อครั้ง
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- ไม่ควรติดตั้งไฟฉุกเฉินชนิดแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ไว้บริเวณที่มีอากาศถ่ายเทไม่ดีเพราะจะทำ ให้ไอตะกั่วระเหยกระจายในอากาศ เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
- การติดตั้งไฟฉุกเฉิน ต้องมั่นคงแข็งแรง เพราะแบตเตอรี่จะมีน้ำหนักมากอาจจะร่วงหล่นเป็นอันตรายได้
- ควรเสียบปลั๊กไฟฟ้าเพื่อประจุไฟฟ้าให้แบตเตอรี่เต็มอยู่เสมอ พร้อมใช้งานตลอดเวลาเมื่อไฟฟ้าปกติดับ
การบำรุงรักษา
- ทำความสะอาดดวงโคม ทุก 2 สัปดาห์
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น เติมน้ำกลั่น ทุก 1 เดือน
- ทดสอบการทำงานของเครื่อง test เครื่อง ทุก ๆ 1 เดือน
- คายประจุแบตเตอรี่ให้หมด ทุก ๆ 6 เดือน
แบตเตอรี่ ไฟฉุกเฉิน
- ทั่วไปจะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี ซึ่งพอหลังจาก 2 ปี ไปแล้ว แบตเตอรี่ จะค่อยๆ เสื่อมสภาพลง เช่น เก็บไฟได้น้อยลง ชาร์จไฟไม่เข้า แบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินปวม หรือมีคราบเกลือเกาะ จำเป็นต้องเปลี่ยน แบตเตอรี่ ไฟ ฉุกเฉิน ใหม่
- ป้องกันไม่ให้ไฟฉุกเฉิน เสียหาย และพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา เมื่อเกิดไฟดับ